ชีวิตที่ยืมมา: บทเรียนแห่งการสำนึกคุณต่อธรรมชาติ

คุณเคยหยุดคิดบ้างไหมว่า ทุกลมหายใจของเรา ทุกก้าวย่างบนโลกใบนี้ ล้วนเป็นการ “ยืม” มาทั้งสิ้น? วันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงความจริงที่มักถูกมองข้าม นั่นคือ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ในฐานะผู้ให้และผู้รับ

เราคือใคร? มาจากไหน?

ลองนึกภาพเด็กทารกแรกเกิด ร่างกายเล็กๆ นั้นประกอบขึ้นจากอะไร? เนื้อ กระดูก เลือด และน้ำ ทั้งหมดนี้มาจากไหน?

คำตอบคือ “ธรรมชาติ”

พ่อและแม่ของเด็กก็ต้องกินอาหารที่มาจากพืชและสัตว์ ดื่มน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ หายใจอากาศที่ต้นไม้สร้างขึ้น ทุกโมเลกุลในร่างกายของเด็กทารกนั้น ล้วนยืมมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น

ธรรมชาติ: ผู้ให้ที่ไม่เคยเรียกร้อง

เมื่อเราเติบโต เราใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ:

  • อาหารที่เรากิน มาจากพืชและสัตว์ที่เติบโตในธรรมชาติ
  • น้ำที่เราดื่ม มาจากแม่น้ำ ทะเลสาบ และน้ำใต้ดิน
  • เสื้อผ้าที่เราสวมใส่ ทำจากฝ้ายในไร่ หรือเส้นใยสังเคราะห์จากน้ำมัน
  • บ้านที่เราอยู่ สร้างจากไม้ หิน และแร่ธาตุจากธรรมชาติ
  • ยาที่เรารักษาโรค ส่วนใหญ่สกัดจากพืชและสัตว์

แต่คุณรู้ไหม? ธรรมชาติให้ทั้งหมดนี้โดยไม่เคยเรียกร้อง ไม่เคยทวงคืน ไม่เคยเรียกเก็บค่าเช่า

มนุษย์: ผู้ยืมที่ไม่รู้จักพอ

น่าเศร้าที่มนุษย์กลับลืมความจริงข้อนี้ เราคิดว่าทุกอย่างเป็นของเรา และเราทำลายมันอย่างไม่ยั้งคิด:

  • เราตัดไม้ทำลายป่าเพื่อสร้างเมือง
  • เราขุดเจาะทรัพยากรและถลุงจนโลกเสียสมดุล
  • เราทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลเพียงเพื่อความสะดวกสบาย
  • เราล่าสัตว์จนสูญพันธุ์เพียงเพื่อความสนุกและการบริโภคที่เกินพอดี

ทำไมเราถึงทำเช่นนี้? เพราะความโลภ ความไม่รู้จักพอ บางครั้งเพียงเพื่ออวดร่ำอวดรวย เพื่อให้ตัวเองดูดีกว่าคนอื่น

ความจริงที่เราต้องยอมรับ

ความเป็นจริงคือ เราไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย เราเป็นเพียงผู้ยืมชั่วคราว ทุกอย่างที่เรามี ทุกอย่างที่เราเป็น ล้วนเป็นของธรรมชาติแต่เดิมทั้งสิ้น

ลองคิดดู:

  1. ทุกอณูในร่างกายเรา ยืมมาจากธรรมชาติ
  2. ทุกสิ่งที่เราใช้ในชีวิต มาจากธรรมชาติ
  3. ธรรมชาติให้ทุกอย่างโดยไม่เคยเรียกร้อง
  4. เราไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย เราเป็นเพียงผู้ยืมชั่วคราว

แล้วเราจะทำอย่างไร?

เมื่อเราเข้าใจความจริงนี้ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยนแปลง:

  1. ใช้ทรัพยากรอย่างระมัดระวัง: คิดก่อนใช้ ใช้เท่าที่จำเป็น
  2. รักษาสิ่งแวดล้อม: ลดขยะ แยกขยะ ปลูกต้นไม้
  3. เลือกบริโภคอย่างยั่งยืน: เลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เลิกสนับสนุนธุรกิจที่ทำลายธนรรมชาติ
  4. สอนคนรอบข้าง: แบ่งปันความรู้นี้กับเพื่อน ครอบครัว และลูกหลาน

บทส่งท้าย: เริ่มต้นวันนี้ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า

ลองจินตนาการสักครู่ว่าคุณเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ คุณมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับใครบางคนด้วยความรักและเมตตา ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า และทุกสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต คุณให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ไม่เคยเรียกร้องหรือทวงถาม

แต่แล้ววันหนึ่ง ผู้รับกลับไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในบุญคุณ แต่ยังคอยทำร้าย เบียดเบียน และทำลายสิ่งที่คุณให้ไปอย่างไม่ยั้งคิด พวกเขาตัดต้นไม้ที่คุณปลูก ทำลายแหล่งน้ำที่คุณสร้าง ปล่อยมลพิษสู่อากาศที่คุณให้หายใจ คุณจะรู้สึกอย่างไร?

แน่นอนว่าคุณคงโกรธและเจ็บปวด

นั่นคือสิ่งที่เรา มนุษยชาติ กำลังทำกับธรรมชาติ ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ของเรา ภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นพายุรุนแรง น้ำท่วมฉับพลัน ไฟป่า หรือโรคระบาด อาจไม่ใช่แค่ปรากฏการณ์ธรรมชาติธรรมดา แต่อาจเป็นการแสดงออกถึงความโกรธและความเจ็บปวดของธรรมชาติที่ถูกเราทำร้ายมาอย่างยาวนาน

ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหยุดและคิดใหม่ ทำใหม่ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เราจะปล่อยให้ตัวเองดำรงอยู่ชั่วคราวเพื่อทำร้ายผู้มีพระคุณและเบียดเบียนกันเองแค่นี้หรือ?

เริ่มจากวันนี้ ด้วยการทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เพื่อตอบแทนธรรมชาติ แสดงความกตัญญูต่อผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ของเรา ให้ความเคารพและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม เพราะนั่นคือผู้ให้กำเนิดที่แท้จริงของเราทุกคน

หากเราทุกคนร่วมมือกัน เราอาจจะยังมีโอกาสแก้ไขความผิดพลาดในอดีต และสร้างอนาคตที่สดใสกว่าสำหรับลูกหลานของเรา

Shopping cart
Sign in

No account yet?